ถาม - ตอบ เกี่ยวกับ Undo Card
คำถาม | ทำไมต้องใช้ Undo Card | |
คำตอบ | คิดว่าหลายท่านที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ คงจะได้เคยพบปัญหาคอมพิวเตอร์ แฮงค์บ่อย, ใช้คอมพิวเตอร์ ไปนานๆ แล้วเครื่องอืด,ช้า หรือติดไวรัสต้องคอยฆ่าไวรัส ... | |
คำถาม | Undo Card ทำงานอย่างไร | |
คำตอบ | งานที่สำคัญของ Undo Card คือการช่วยย้อนสภาพคอมพิวเตอร์ ในวันที่มีการ Set up ใหม่ๆ เพิ่มลงโปรแกรมครั้งแรก เครื่องยังไม่มีไวรัส ... | |
คำถาม | เมื่อ Undo เป็นการทำกลับสภาพคอมพิวเตอร์ ให้กลับไปดีเสมอ แล้วโปรแกรมที่ได้ลงเพิ่มไว้จะหายไหม | |
คำตอบ | ไม่หายครับ เพียงแต่คุณติดตั้งโปรแกรมลงไปในเครื่องตามปกติ แล้วก็กดปุ่ม Mark เพียงเท่านี้ Undo Card ก็จะจำโปรแกรมที่คุณได้ติดตั้งเพิ่มเติมลงไปแล้วครับ | |
คำถาม | Data ที่ได้บันทึกไว้ จะหายไปไหมเมื่อสั่ง Undo | |
คำตอบ | ไม่หายครับ เพราะท่านสามารถที่จะระบุได้ว่าจะให้ Undo Card ปกป้องคอมพิวเตอร์ ของคุณโดย Undo ที่ไดร์ฟไหนบ้าง อย่างไดร์ฟ C: ... | |
คำถาม | ข้อมูลประเภท My Document, My Pictures, My favorites, Address Book (ใน Outlook Express) ซึ่งเหล่านี้มี Default อยู่ไดร์ฟ C จะบันทึกได้ไหมเมื่อติดตั้ง Undo Card | |
คำตอบ | ได้ครับ เพียงคุณดาวน์โหลด Undo Helper จากหน้า ดาวน์โหลด Driver มาลงในเครื่อง Undo Helper จะช่วยคุณ ... | |
คำถาม | เห็นมี Undo Card หลายยี่ห้อ แตกต่างกันยังไง | |
คำตอบ | ก่อนอื่นต้องบอกว่า คำว่า Undo Card เป็นชื่อสินค้าที่คิดค้นโดยบริษัท อาร์ แอนด์ ดี คอมพิวเตอร์ ซิสเท็ม จำกัด แต่เนื่องจากเป็นคำเรียกที่เข้าใจง่าย ... | |
คำถาม | ใช้แล้วทำให้เครื่องช้าไหม | |
คำตอบ | ไม่ทำให้เครื่องช้า เพราะ Undo Card จะทำงานในลักษณะป้องกันพื้นที่ในส่วนที่ต้องการปกป้องไว้ไม่ให้มีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ... | |
คำถาม | กินหน่วยความจำของเครื่องหรือเปล่า | |
คำตอบ | น้อยมาก แต่ถ้าหมายถึงฮาร์ดดิสก์ก็น้อยมากเช่นกันเพราะจะใช้เฉพาะพื้นที่ว่าง ฮาร์ดดิสก์ในส่วนที่ไม่ต่อเนื่องกัน ทั้งนี้ Undo Card มีการรายงาน Resource ที่ยังว่างกับขนาด Resource ทั้งหมดด้วยครับ | |
คำถาม | ถ้าฮาร์ดดิสก์เสีย Undo Card กู้คืนได้หรือเปล่า | |
คำตอบ | ไม่ได้ครับ Undo Card ช่วยกู้คืนระบบและข้อมูลที่อยู่ภายในฮาร์ดดิสก์ แต่ถ้าฮาร์ดดิสก์ชำรุดในทางกายภาพ เช่น ตก บุบสลาย ไหม้ หมดสภาพการใช้งาน อันนี้ Undo Card ช่วยไม่ได้ครับ | |
คำถาม | ใช้งานยากไหม | |
คำตอบ | ง่ายมากเพียงแค่กด Restart เครื่อง Undo ก็ทำงานแล้วครับ ส่วนคำสั่งอื่นๆ ก็มี 3 คำสั่งหลักที่ใช้งาน ได้แก่ Mark, Unmark และ Undo : Mark คือการสั่งให้ ... | |
คำถาม | Undo Card ค่างกับซอฟต์แวร์อย่างไร | |
คำตอบ | มั่นใจได้มากกว่า เพราะฟังก์ชั่นการ Recovery ต่างๆถูกเก็บอยู่บนตัวคาร์ด ไม่สามารถถูกทำลายได้ง่ายเท่ากับซอฟต์แวร์ที่ฟังก์ชั่นการ Recovery ... | |
คำถาม | บาง OS มี Recovery ให้อยู่แล้วก็ไม่ต้องใช้ Undo Card ใช่ไหม | |
คำตอบ | จะตอบว่าใช่ก็พอได้ แต่ Recovery ที่ว่านั้นจะปกป้องเฉพาะตัว OS ของเขาเท่านั้น สำหรับโปรแกรมหรือข้อมูลอื่นที่ท่านลงไว้หลังจากนั้น จะไม่สามารถกู้กลับมาได้เลย ดังนั้นหากท่านเลือกใช้ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานพอสมควร เพราะใช้งานไม่ง่ายนัก | |
คำถาม | คาร์ดที่มีเหล็กฉากมีข้อดีอย่างไร | |
คำตอบ | ทำให้ติดตั้งได้อย่างแน่นหนามากขึ้น ปลอดภัยมากกว่าคาร์ดที่ไม่มีเหล็กฉากซึ่งมีโอกาสหลุดออกจาก Slot เวลาถูกเคลื่อนย้ายหรือถูกกระแทกได้ และที่พิเศษกว่านั้น ... | |
คำถาม | Undo Card มีหลายรุ่น ควรเลือกใช้รุ่นไหนดี | |
คำตอบ | ต้องดูจากความจำเป็นครับ ถ้าใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการสอนก็ต้องมีคุณสมบัติ Classroom Management, Desktop Management ... | |
คำถาม | Classroom Management, Desktop Management คืออะไร | |
คำตอบ | คือเครื่องมือที่ทำให้ท่านจัดการและควบคุมเครื่องลูกข่ายจำนวนมากผ่าน Networkได้อย่างสะดวกและง่ายดาย เสมือนท่านไปนั่งอยู่ ณ เครื่องลูกเครื่องนั้น เช่น การดึงหน้าจอมาดูและควบคุม, ส่งข้อความ/ไฟล์, สั่งเปิด-ปิดเครื่อง, สั่งล็อกอินเทอร์เน็ต/เมาส์/คีย์บอร์ด ฯลฯ | |
คำถาม | การทำงานของ Classroom Management, Desktop Management กิน Bandwidth มากไหม | |
คำตอบ | มากน้อยแค่ไหนตอบได้ลำบากครับ เพราะฟังก์ชั่นที่เลือกใช้งานใน Classroom/Desktop Management สมรรถนะและลักษณะการใช้งานเครือข่าย ... | |
คำถาม | สามารถควบคุมเครื่องลูกข่ายจาก Notebookได้หรือเปล่า | |
คำตอบ | เครื่องแม่สามารถใช้ Notebook ได้ แต่เครื่องลูกข่ายต้องติดคาร์ดครับ | |
คำถาม | ในฟังก์ชั่นการ Lock Internet เมื่อล็อคแล้วสามารถรับ-ส่ง E-mail ได้หรือไม่ | |
คำตอบ | ในกรณีที่เป็น E-mail ใน Outlook Express ก็รับส่งได้ตามปกติ ไม่มีผลกระทบอะไร แต่ถ้าเป็น E-Mail ที่ต้อง Load จาก HTML ก็จะล็อกได้เพราะโดนล็อกอินเทอร์เน็ตแล้วครับ | |
คำถาม | ในฟังก์ชั่น Install สามารถ Install ได้มากกว่า 1 โปรแกรมในคราวเดียวหรือไม่ | |
คำตอบ | ได้ครับ | |
คำถาม | ใช้คุณสมบัติ Classroom Management โดยสั่งงานจากบ้าน หรือที่อื่นๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ไหม | |
คำตอบ | ได้ แต่จะไม่รวดเร็วเหมือนการสั่งควบคุมที่อยู่ในวง LAN เดียวกัน |
ถาม - ตอบ เกี่ยวกับ Octopus
คำถาม | Octopus คืออะไร | |
คำตอบ | Octopus คืออุปกรณ์ป้องกันและถนอมเครื่องใช้ไฟฟ้าของท่านจากกระแสไฟฟ้าผิดปกติ เช่น กระแสไฟกระชาก, แรงดันสไปก์จากฟ้าผ่า, สัญญาณรบกวน, ไฟตก-ไฟเกิน, ไฟติดๆ ดับๆ | |
คำถาม | ไฟกระชาก คือ อะไร | |
คำตอบ | คือ สภาวะแรงดันไฟฟ้าสูงขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ อาจเกิดจากฟ้าผ่า, อุปกรณ์ไฟฟ้าหยุดทำงานแล้วกลับมาทำงานใหม่อีกครั้งกระทันหัน พื้นท | |
คำถาม | ป้องกันแรงดันสไปก์จากฟ้าผ่า แล้วถ้าฟ้าผ่า Octopus จะพังหรือเปล่า | |
คำตอบ | ขึ้น อยู่กับความรุนแรงของฟ้าที่ผ่ามา ถ้าผ่ามาในบริเวณใกล้เคียงและความแรงไม่เกินกว่า 1000 จูลส์ Octopus ก็ยังไม่พัง แต่ถ้าเกินกว่านั้นก็พังได้ แต่ Octopus นะครับที่จะพังแทนเพื่อปกป้องอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงของคุณ เพราะหน้าที่หลักของ Octopus คือตายแทนครับ และเมื่อ Octopus พังแล้วคุณก็สามารถส่งเข้ามาซ่อมที่บริษัทได้เลยครับ | |
คำถาม | Octopus ต่างกับปลั๊ก 199 บาทอย่างไร | |
คำตอบ | ถามแบบนี้ถ้าตอบสั้นๆก็บอกได้เลยว่า “คนละเรื่อง” เลยครับ ก็เหมือนกับรถยนต์แหละครับ คันไหนก็พาไปถึงปลายทางได้เหมือนกัน แต่ทำไมจึงมีคนซื้อรถยนต์ราคาหลายล้าน แทนที่จะซื้อคันละไม่กี่แสนบาท | |
คำถาม | Octopus คือ UPS อย่างหนึ่งใช่ไหม (ถ้าไม่ใช่ต่างกับ UPS อย่างไร) | |
คำตอบ | ไม่ใช่ครับ UPS เหมือนน้ำมันก๊อก 2 ถ้าใครขับรถตอนน้ำมันหมด แต่ Octopus เหมือนกับกันชนหน้ารถ | |
คำถาม | UPS ก็บอกว่าป้องกันไฟกระชาก ดีกว่าอีกทั้งสำรองไฟทั้งกันไฟกระชากด้วย | |
คำตอบ | UPS ที่บอกว่าป้องกันไฟกระชากนั้น สังเกตุได้จะไม่ค่อยบอกสเปคละเอียดว่ากันได้เท่าไหร่ ที่เราสำรวจมากันได้สูงสุดก็เพียง 300 จูลส์ เปรียบเหมือนใช้อลูมิเนียมอย่างบางมาทำกันชน แต่ Octopus เรารับแรงได้ 1,057-2,856 จูลส์ เปรียบเหมือนใช้เหล็กกล้าอย่างหนามาทำกันชน เวลากระแทกแรงๆเข้ามาที่จะทำให้อุปกรณ์พัง UPS ก็แทบไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าฟ้าผ่าลูกใหญ่ UPS ก็รับไม่ไหว | |
คำถาม | ถ้าไฟตกแล้วตัด ข้อมูลก็หายหมดน่ะสิ แล้วจะมีประโยชน์อะไร ใช้ UPS ดีกว่า | |
คำตอบ | ควรจะใช้ Octopus ร่วมกับ UPS ใช้กับคอมพิวเตอร์ คือ ให้ UPS ปกป้องซอฟต์แวร์และข้อมูลให้ Save งานทัน และให้ Octopus ปกป้องฮาร์ดแวร์ราคาแพงที่เราซื้อมาให้ใช้ได้คุ้มค่านานๆ | |
คำถาม | ถ้าซื้อไปใช้กับ UPS ต้องเสียบอะไรก่อนอะไรหลัง เพราะอะไร | |
คำตอบ | เสียบ Octopus เข้ากลับเต้ารับข้างผนังบ้านก่อน แล้วเอา UPS มาเสียบที่ Octopus อีกที จากนั้นค่อยนำคอมพิวเตอร์มาเสียบที่ UPS เพื่อให้ Octopus เป็นตัวป้องกันได้ทั้ง UPS และ คอมพิวเตอร์ด้วย | |
คำถาม | Octopus ต่างกับ Stabilizer อย่างไร | |
คำตอบ | แบบนี้ต้องขอเทียบกับรุ่น S-600V ครับเพราะมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน หลักการทำงานของ Stabilizer คือไม่ว่าแรงดันไฟขาเข้าจะสูงหรือต่ำกว่า 220 โวลต์ Stabilizer | |
คำถาม | มีปลั๊กที่ทั้งสำรองไฟและกันกระชากในตัวมั้ย | |
คำตอบ | ยังไม่มีครับ ถ้าทำออกมาราคาคงสูงพอควร ตอนนี้ถ้าอยากใช้คงต้องซื้อ Octopus ไปเสียบพ่วงกับ UPS ก่อนนะครับ | |
คำถาม | รุ่น มีข้อแตกต่างกันอย่างไร | |
คำตอบ | ทุกรุ่น มีวงจรพื้นฐานเรื่องความปลอดภัย คือ ป้องกันไฟกระชาก และฟ้าผ่า รวมถึงกรองสัญญาณรบกวนและสามารถตรวจสอบระบบ Ground ได้เหมือนกัน แต่จะมีจุดเด่นต่างกันไป | |
คำถาม | ถ้าใช้กับคอมพิวเตอร์ควรจะใช้รุ่นไหน | |
คำตอบ | ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของเรา ทุกรุ่นกันไฟกระชากคล้ายกันหมดแต่ Option เสริมต่างกัน ใช้รุ่น A ก็เหมาะเพราะเวลาปิดอุปกรณ์เป็นชุดจะสะดวกมาก แต่ถ้ามีปัญหาไฟตกไฟเกินบ่อยๆ ควรใช้รุ่น V ร่วมกับ UPS แต่ถ้างบน้อยหน่อยแต่ต้องการความปลอดภัยก็รุ่น N ครับ | |
คำถาม | ใช้กับสาย LAN, ADSL ได้หรือเปล่า | |
คำตอบ | ใช้ได้กับ ADSL และสายโทรศัพท์ได้เพราะเป็นรูเสียบแบบ RJ11 แต่สาย LAN เป็น RJ45 จะใช้ไม่ได | |
คำถาม | ไม่ใช่ปลั๊กธรรมดา | |
คำตอบ | เพราะไม่ใช่ปลั๊กธรรมดา แต่เป็นอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากคุณภาพสูง มีอุปกรณ์และวงจรอิเล็คทรอนิกส์เพื่อความปลอดภัยหลายชั้นและใช้อะไหล่คุณภาพ ดี และคำว่าแพงคงจะวัดยาก | |
คำถาม | ถ้าคอมพิวเตอร์จอเป็นเส้นๆ ปลั๊กนี้จะช่วยให้หายหรือเปล่า | |
คำตอบ | กรณี นี้อาจเกิดจากสัญญาณรบกวนที่เข้ามาทางสายไฟ มีลูกค้าที่ใช้แล้วหายเหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความถี่ที่รบกวน ถ้าอยู่ในย่าน 10 Kh - 100 Kh ก็จะกรองได้ดีมากเพราะตัวกรองของเราออกแบบมาอย่างนั้น แต่ถ้าเป็นเส้นๆตอนมือถือดัง จะเกิดจากคลื่นความถี่รบกวนในอากาศ จะไม่เกี่ยวกับระบบการกรองสัญญาณของ Octopus | |
คำถาม | มีรับประกันความเสียหายมั้ยถ้าใช้แล้วคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ต่อพัง (UPS ยังมีเลย) | |
คำตอบ | ที่ UPS มีเพราะเป็นนโยบายการตลาดของเขา ต้องไปอ่านเงื่อนไขโดยละเอียดในการชดใช้ค่าเสียหายของเขาด้วย ถ้าฟ้าผ่าลงแรงๆอุปกรณ์ 2 แสนบาทพัง เขาก็มีเงื่อนไขที่อาจจะไม่จ่ายก็ได้ แต่เขาบอกประกันไว้ก่อนเพราะอยากให้ซื้อของเขา แต่ของ Octopus ไม่ได้ทำตลาดแบบนั้น แต่อุปกรณ์ทุกตัวเราทดสอบได้ และมีการทดสอบก่อนออกขาย หากเกิดไฟกระชากตามสเปคที่กำหนดก็จะทำงานอย่างแน่นอน ขายไปแล้วหลายพันตัว ลูกค้าใช้ดีก็บอกต่อกัน บางคนใช้แล้ว MOV ก็ระเบิดแต่อุปกรณ์ตู้สาขาโทรศัพท์เขาไม่พังเขาก็ดีใจ เขาซื้อไปใช้เพิ่มเรื่อยๆ | |
คำถาม | อุปกรณ์ไอทีส่วนใหญ่ราคาก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร ซื้อ Octopus คุ้มกับมูลค่าของหรือ | |
คำตอบ | ถ้า มองความคุ้มที่มูลค่าของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง การซื้อ Octopus มาป้องกันก็อาจจะดูราคาแพง แต่อย่าลืมว่าภายในคอมพิวเตอร์นั้นมีทั้งซอฟต์แวร์และข้อมูลที่จัดเก็บไว้ ซึ่งถ้าโดนฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียวแล้วเครื่องพังไปเลย |
ถาม - ตอบ เกี่ยวกับ Surge Protector for Telephone Line
คำถาม: | ตู้สาขา (PABX) มีระบบป้องกันไฟกระชากอยู่แล้ว ทำไมต้องเพิ่มระบบป้องกันอีก |
คำตอบ: | ใน ระบบป้องกันตู้ PABX ทั่วไป ส่วนมากก็ยังเกิดความเสียหายกับอุปกรณ์บนเมนบอร์ดอยู่เมื่อเกิดไฟกระชากเข้า มา การเปลี่ยนแผงวงจรแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ถ้ามีการป้องกันอีกชั้นจะปลอดภัยและประหยัดมากกว่า |
| |
คำถาม: | ระบบป้องกันของ Octopus S-341T และ S-381T ดีกว่าระบบป้องกันที่ใช้กันอยู่ทั่วไปอย่างไร |
คำตอบ: | ระบบที่ใช้กันอยู่ทั่วไปมักมี Gas Arrestor หรือ MOV 1 ตัวในการป้องกัน หรือที่มักเรียกว่า “ตัวกันฟ้า” แต่ ระบบป้องกันของ Octopus มีการป้องกันถึง 3 ชั้น 1.ระบบป้องกันไฟกระชาก (Surge) ใช้ Thyristor สามารถป้องกันไฟกระชากที่รุนแรงไม่มากแต่ป้องกันได้อย่างรวดเร็ว 2.ระบบป้องกันแรงดันเกิน (Over Voltage) ใช้อุปกรณ์ Gas Arrestor ชนิด Failsafe-Heavy Duty สามารถป้องกันไฟกระชากและแรงดันสไปก์จากฟ้าผ่าได้ถึง 20KA 3. ระบบป้องกันกระแสเกิน (Over Current) ใช้อุปกรณ์ PTC ความต้านทานต่ำช่วยป้องกันกระแสเกินอีกชั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณสมบัติทั้ง 3 ข้อนี้ช่วยป้องกันตู้ PABX ได้สูงสุด และยังมีระบบป้องกันไฟกระชากในระบบไฟ AC ให้อีกด้วย |
| |
คำถาม: | ป้องกันได้กี่คู่สาย |
คำตอบ: | Octopus รุ่น S-381T สามารถป้องกันไฟกระชากในสายโทรศัพท์ได้ 8 คู่สาย ส่วน S-341T ได้ 4 คู่สาย |
| |
คำถาม: | รูปแบบการติดตั้งเป็นอย่างไร |
คำตอบ: | Telephone Line → Octopus → PABX → โทรศัพท์ |
| |
คำถาม: | ป้องกันไฟกระชากได้สูงสุดเท่าใด |
คำตอบ: | ในระบบคู่สายโทรศัพท์สามารถป้องกันได้ 20kA ต่อวงจร และในระบบไฟ AC ป้องกันได้ 105kA |
| |
คำถาม: | Octopus มีการป้องกันทั้ง 2 ระบบในตัวเดียวกัน หากเกิดฟ้าผ่าในระบบไฟ AC จะมีผลกระทบกับระบบโทรศัพท์หรือไม |
คำตอบ: | ไม่มีครับ เพราะทั้ง 2 ระบบได้รับการออกแบบมาให้ทำงานคนละวงจรกัน ประกอบกับมีระบบ Ground มาให้ด้วยแล้วผลกระทบที่อาจเกิดกับระบบโทรศัพท์เป็นไปได้น้อยมาก |
| |
คำถาม: | หากเกิดฟ้าผ่าตรงๆ ลงมา Octopus มีโอกาสเสียหายหรือไม่ |
คำตอบ: | แม้ Octopus ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ถ้าเจอฟ้าผ่าลงมาตรงๆ ก็อาจเสียหายได้ครับ ดังนั้นการใช้ก็เพื่อลดความเสียหายเหมือนการผ่อนหนักให้เป็นเบา แทนที่ตู้ PABX จะพังก็กลายเป็น Octopus พังแทน ก็เหมือนบ้านที่มีผนังบ้านป้องกันอยู่แล้ว แต่เพิ่มกำแพงป้องกันอีกชั้นหนึ่งย่อมปลอดภัยกว่า |
| |
คำถาม: | รับประกันสินค้ากี่ปี |
คำตอบ: | สินค้า Octopus รับประกัน 2 ปีครับ ระหว่างนี้หากสินค้ามีปัญหาก็ส่งซ่อมได้ที่ศูนย์บริการ สนญ. โทร. 02 693-1748 หรือ ศูนย์บริการสาขาพันธุ์ทิพย์พลาซ่า โทร. 02 255-6910 |
|
ถาม - ตอบ เกี่ยวกับ HardLock
คำถาม: | Hardlock คืออะไร |
คำตอบ: | HardLock คืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ขนาดเล็กที่ใช้ป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ |
| |
คำถาม: | Hardlock ของ R&D นี้ต่างจาก DONGLE ของยี่ห้ออื่นอย่างไร |
คำตอบ | มีลูกเล่นในการใช้งานมากกว่า |
| |
คำถาม: | HardLock มีความแน่นหนาเพียงใด |
คำตอบ | สินค้าฮาร์ดแวร์ป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ของทุกค่ายจะมีการทำงานคล้ายๆ กัน |
| |
คำถาม: | HardLock ดีกว่าการล็อกด้วยแผ่นดิสก์ (DiskLock), SoftLock, Serial Number หรือ Activate Key อย่างไร |
คำตอบ | ลูกค้าไม่อึดอัดในเรื่องการทำสำเนาโปรแกรม หรือการย้ายเครื่อง |
| |
คำถาม: | เมื่อใช้ HardLock แล้วโปรแกรมจะทำงานช้าลงหรือไม่ |
คำตอบ | กรณีการล็อกด้วยวิธี API จะมีผลน้อยมาก การเรียก API แต่ละครั้งกินเวลาประมาณแค่ประมาณ 0.01 วินาทีเท่านั้น ถึงแม้จะเรียกหลายๆครั้งก็ไม่มีผลให้สังเกตเห็นได้ เวลาอื่นที่ไม่ได้เรียก API ก็จะไม่มีผลอะไรเลย แต่ทั้งนี้ต้องระวังไม่นำ API ไปแทรกในจุดที่โปรแกรมทำงานซ้ำบ่อยๆ เช่นใน Loop กรณีใช้ Envelope จะมีผลเฉพาะตอนโหลดโปรแกรมเท่านั้นที่จะช้าไปบ้างเล็กน้อย แต่ก็สังเกตได้ยาก และหลังจากนั้นโปรแกรมจะทำงานด้วยความเร็วปกติ |
| |
คำถาม: | เขาว่ามีการทำ Emulation ได้ HardLock ของ R&D สามารถป้องกันได้หรือไม่ |
คำตอบ | การ Emulation นั้นเหมาะสำหรับการแกะ HardLock รุ่นเก่าๆที่มีโครงสร้างง่ายๆ แต่สำหรับ HardLock รุ่นปัจจุบันจะแกะไม่ได้ เพราะการ Emulation พอร์ต USB นั้นทำได้ยากมาก อีกทั้งตัว HardLock รุ่นนี้จะมีไมโครโปรเซสเซอร์อยู่ภายในทำให้การสื่อสารมีความซับซ้อนสูง การติดต่อจะมีรหัสเฉพาะที่เปลี่ยนไปทุกครั้งไม่เหมือนกัน และยังมีการผสมสัญญาณรบกวนแบบสุ่ม (Random Noise) ไว้กับข้อมูล ทำให้ไม่สามารถนำเอาข้อมูลเก่าที่ดักเก็บไว้มา Emulate ซ้ำในภายหลังได |
| |
คำถาม: | การล็อกโปรแกรมทำได้อย่างไรบ้าง |
คำตอบ | ทำได้ 3 แบบ แบบแรกคือวิธี Envelope โดยเอาโปรแกรมที่คอมไพล์เป็น EXE หรือ DLL แล้วมาทำเปลือกหุ้ม มีข้อดีคือทำง่าย ไม่ต้องศึกษามาก และไม่ต้องใช้ Source Code แบบที่ 2 คือใช้ API วิธีนี้จะต้องมีการแก้ Source Code แล้วคอมไพล์โปรแกรมใหม่ มีข้อดีคือมีความแน่นหนาสูงสามารถทำให้ซับซ้อนได้ตามใจโปรแกรมเมอร์ แบบที่ 3 คือแบบผสม ทำ API ก่อนแล้วตามด้วย Envelope ซึ่งจะแน่นหนาที่สุด |
| |
คำถาม: | การล็อกด้วย Envelope มีขั้นตอนอย่างไร |
คำตอบ | มีขั้นตอนง่ายๆ ใช้เวลาไม่ถึง 3 นาที ดังนี้ - เรียกโปรแกรม Envelope มา แล้วระบุไฟล์โปแกรม EXE, DLL หรือ ARX ที่จะล็อก ระบุชื่อไฟล์ Output เลือก Option ต่างๆ แล้วกดปุ่ม Make - ทดสอบการใช้งาน |
| |
คำถาม: | การล็อกด้วย API มีขั้นตอนอย่างไร |
คำตอบ | มีขั้นตอนดังนี้ - ศึกษาและดูตัวอย่าง API จากคู่มือและไฟล์ตัวอย่างที่อยู่ในแผ่น CD-ROM ของชุดพัฒนา HardLock (Starter's Kit) - แก้ไข Source Code โดยตัดโปรแกรมตัวอย่างไปวางในจุดต่างๆของโปรแกรมที่จะล็อก - คอมไพล์ และทดสอบการใช้งาน |
| |
คำถาม: | การล็อกด้วย Envelope รองรับไฟล์ประเภทใดบ้าง |
คำตอบ | - รองรับไฟล์โปรแกรมที่ Run ได้ คือ ไฟล์โปรแกรม EXE และ DLL และไฟล์ที่มีโครงสร้างเป็น PE32 เช่นARX ของ AutoCAD และไฟล์ EXE ของ FoxPro - รองรับไฟล์ โปรแกรม EXE ที่สร้างจาก Visual Studio .Net ทุกภาษา เช่น VB.Net VC.Net เป็นต้น - รองรับไฟล์แอนิเมชัน SWF ของ Flash |
| |
คำถาม: | สามารถตั้งให้จำกัดจำนวนครั้งในการใช้งานโปรแกรมของลูกค้าได้หรือไม่ (เช่นให้ Run โปรแกรมได้แค่ 100 ครั้ง) |
คำตอบ | ได้ โดยกำหนดจำนวนครั้งของแต่ละโปรแกรมไว้ในตัว HardLock ส่วนในโปรแกรมก็ให้มีการเรียก API เพื่อลดค่าตัวนับทุกครั้งที่ใช้งาน เมื่อลดจนถึงศูนย์โปรแกรมก็จะไม่สามารถใช้งานต่อได้ หากอยากอนุญาตให้ใช้ต่อ ก็เพียงนำตัว HardLock มาบันทึกค่าจำนวนครั้งใหม่ก็จะใช้ได้ต่อไป (นอกจากการใช้ API แล้ว ยังสามารถควบคุมจำนวนครั้งผ่าน Envelope ได้โดยไม่ต้องแก้ Source Code) |
| |
คำถาม: | หากซอฟต์แวร์ที่ถูกล็อกมีการการ Upgrade เป็นเวอร์ชันใหม่ จะต้องทำอย่างไร และต้องขอ HardLock ของลูกค้ากลับมาหรือไม่ |
คำตอบ | เมื่อ โปรแกรมที่ท่านขายไปแล้วมีการ Upgrade เป็นเวอร์ชันใหม่ ก็ให้แก้ไขโปรแกรมของท่านไปตามปกติ เสร็จแล้วก็ล็อกโปรแกรมด้วยวิธีเดิม เมื่อได้ไฟล์โปรแกรมใหม่แล้ว ก็ส่งเฉพาะไฟล์ใหม่นั้นให้ลูกค้าไปติดตั้งทับโปรแกรมเดิมได้เลย ไม่ต้องยุ่งอะไรกับตัว HardLock และไม่ต้องขอ HardLock กลับมาด้วย |
| |
คำถาม: | HardLock ที่อยู่ในชุดพัฒนาแตกต่างจาก HardLock ที่ขายอย่างไร |
คำตอบ | HardLock ตัว Demo ในชุดพัฒนาจะผลิตมาแบบเดียวกับ HardLock ที่ขาย สามารถใช้งานได้เหมือนจริง แต่รหัสผ่านของตัว Demo จะเปิดเผยและซ้ำกันทุกตัวเพื่อให้สะดวกต่อการทดลอง จึงไม่ควรนำ HardLock ตัว Demo มาล็อกโปรแกรมขายจริงๆ เพราะผู้ที่มีชุดพัฒนาทุกคนจะรู้รหัสผ่าน |
| |
คำถาม: | จะมั่นใจได้อย่างไรว่าไม่มีใครสั่งทำหรือมี HardLock Customer Code เดียวกับของเรา |
คำตอบ | ขั้นตอนการป้องกันมีหลายชั้นเช่น ลูกค้า HardLock ทุกรายจะต้องสมัครและลงทะเบียน Customer Code กับ R&D ก่อนเสมอ |
| |
คำถาม: | หาก Password ถูกเปิดเผยหรือรั่วไหลจะทำอย่างไร |
คำตอบ | Password เป็นสิ่งที่ซอฟต์แวร์เฮาส์ต้องเก็บรักษาไว้ให้ดีที่สุด หากหลุดออกไปก็จะต้องยกเลิกการใช้งาน Customer Code นั้นและขอสั่งซื้อ HardLock ตัวใหม่ที่มี Customer Code ใหม่ (ส่วนตัวที่ขายให้ลูกค้าไปแล้วก็ยังคงใช้ได้ตามปกติ) |
| |
คำถาม: | การสั่งซื้อครั้งแรกต้องทำอย่างไร |
คำตอบ | - สมัครเป็นสมาชิก HardLock ก่อน โดยใช้หลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือบริคณห์สนธิ และต้องระบุชื่อคนที่มีสิทธิ์ซื้อ HardLock รหัสของท่านได้ว่ามีใครบ้าง - ซื้อชุดพัฒนา (Starter's Kit) พร้อมตัว HardLock ตามจำนวนที่ต้องการ |
| |
คำถาม: | HardLock มีกี่รุ่น อะไรบ้าง |
คำตอบ | มี 3 รุ่นดังนี้ 1.HardLock-USB (HL-USB) ตัวสีน้ำเงิน เป็นสินค้ารุ่นประหยัด เหมาะแก่การใช้งานทั่วไป สำหรับล็อกโปรแกรม Stand Alone ใช้ HardLock 1 ตัวต่อคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง 2.HardLock-ND (HL-ND) ตัวสีน้ำตาล เป็นสินค้ารุ่นประสิทธิภาพสูง ไม่ต้องใช้ไดรเวอร์ในการทำงาน เหมาะสำหรับการล็อกโปรแกรม Stand Alone 3.HardLock-Net (HL-Net) ตัวสีแดง ใช้สำหรับล็อกโปรแกรมในระบบ LAN ใช้ HardLock 1 ตัว ควบคุมการใช้งานโปรแกรมในวง LAN ได้มากถึง 65535 ยูสเซอร์ โดยกำหนดจำนวนยูสเซอร์เองได้ |
| |
คำถาม: | HardLock รุ่น HardLock -ND ต่างจาก HardLock -USB อย่างไร |
คำตอบ | แตกต่างกันดังนี้ - HardLock-ND สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องลงไดรเวอร์ (ND ย่อมาจาก No Driver) แต่ HardLock-USB ต้องลงไดรเวอร์ ทำให้ HardLock-ND ใช้งานง่ายกว่าและไม่มีปัญหาลูกค้าทำไดรเวอร์หาย - HardLock-ND มี Module ให้ใช้งานมากกว่า คือมี 64 โมดูล แต่ HardLock-USB มีแค่ 16 โมดูล - HardLock-ND มีหน่วยความจำมากกว่า(1000 ไบต์) แต่ HardLock-USB มีแค่ 24 ไบต์ - HardLock-ND มีพื้นที่เก็บคำสั่ง User Algorithm มากถึง 128 คำสั่ง แต่ HardLock-USB มีแค่ 32 คำสั่ง - HardLock-ND มีตัวถังสีน้ำตาล HardLock-USB มีตัวถังสีน้ำเงิน - HardLock-ND มีราคาแพงกว่า (แต่ยังถูกกว่าคู่แข่งทุกรุ่น) |