1. คุณสมบัติการใช้งานของอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก ควรพิจารณาดังนี้
- Surge Current Capacity (ถูกกำหนดขึ้นโดยมาตรฐาน NEMA) หมายถึง ระดับกระแสไฟฟ้าสูงที่สุดที่อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากสามารถต้านทานได้ต่อการเกิดแรงดันสูงชั่วขณะหนึ่งครั้ง โดยระดับกระแสไฟฟ้านี้จะบ่งชี้ถึงความสามารถในการป้องกันของอุปกรณ์ฯ และ ใช้ในการเลือกอุปกรณ์ฯ ให้เหมาะกับแต่ละการใช้งาน เช่น นำไปใช้งานในพื้นที่โล่งแจ้งซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดฟ้าผ่าที่รุนแรง จะต้องพิจารณาถึงระดับกระแสไฟฟ้าสูงที่สุดของอุปกรณ์ฯ ซึ่งสูงมากพอที่จะสามารถต้านทานได้
Clamping Voltage เป็นคุณสมบัติที่อ้างอิงถึงจุดสูงสุดที่ยอมให้แรงดันไฟฟ้าไหลผ่าน หรือกล่าวได้ว่า เป็นค่าแรงดันไฟฟ้าที่อุปกรณ์ป้องกันไฟ
Clamping Voltage เป็นคุณสมบัติที่อ้างอิงถึงจุดสูงสุดที่ยอมให้แรงดันไฟฟ้าไหลผ่าน หรือกล่าวได้ว่า เป็นค่าแรงดันไฟฟ้าที่อุปกรณ์ป้องกันไฟ
- ไฟกระชากยอมให้ไหลผ่านไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต่อเชื่อมอยู่ใน ขณะที่เกิดแรงดันสูงชั่วขณะ คุณสมบัตินี้ใช้วัดความสามารถใน
- การลดแรงดันไฟฟ้าที่สูงขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ของอุปกรณ์ฯ ซึ่งค่านี้ได้รับการรับรองจาก UL (Underwriters Laboratories)
2. ด้านความปลอดภัย ควรพิจารณาดังนี้
- อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก ควรมีการติดตั้งฟิวส์หรือตัวตัดไฟในวงจรที่จะทำการป้องกันโดยเฉพาะ เพื่อลบล้างกับ MOV ที่อาจเสียหายได้ในช่วงที่เกิดแรงดันสูงชั่วขณะ หรือเพื่อป้องกันการใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง
- ในกรณีที่เกิดแรงดันไฟสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากจะต้องมีการป้องกันด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น มีการต่อสาย Line ไปยังสาย Neutral, สาย Line ไปยังสาย Ground, สาย Line ไปยังสาย Line และสาย Neutral ไปยังสาย Ground ฯลฯ
- อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก มีไฟหรือสัญญาณเตือน เพื่อแสดงสภาวะการทำงานของอุปกรณ์ฯ มี Surge counter เพื่อแสดงสถานะขณะอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากเปิดใช้งานอยู่
อุปกรณ์ Surge Protector ที่น่าสนใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น